ทัวร์เอธิโอเปีย เทศกาลทิมกัต
ทัวร์
แอฟริกา
ระยะเวลา
13 วัน
สายการบิน
วันเดินทาง
17 - 29 มกราคม 2562
Hilight

ทัวร์เอธิโอเปีย เทศกาลทิมกัต 1 ปี มีหนเดียว ! ห้ามพลาด เดือนมกราคม 2562 นี้ ไปเที่ยวเอธิโอเปียกัน

กับเส้นทางสุดว้าว เริ่มที่ แอดดิส อะบาบา - จินคา - คอนโซ - เผ่าเมอซี หรือ มูร์ซี - เผ่าคอนโซ -
อาร์บามิช - ภูเขาไฟเออตาเตล - มาเคเล - ดาลลอล - อักซุม - จบที่ลาลิเบล่า 
เที่ยวครบ เก็บทุกรายละเอียด ทัวร์คุ้มค่า ราคาเบาๆ 

แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    1) วันพฤหัสบดีที่ 17 ม.ค. 62 สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
    • 22.45 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ
                      ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ U โดยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES 
                      โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัท Global Holiday คอยให้บริการการตอนรับ

  • Day 2
    2) วันศุกร์ที่ 18 ม.ค. 62 กรุงเทพ (Bangkok) - แอดดิส อะบาบา (Addis Ababa) (B/L/D)
    • 01.45 น.    เหินฟ้าสู่เมือง แอดดิส อะบาบา โดยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES เที่ยวบินที่ ET609 (0145-0615) 
      ( ใช้เวลาบิน 8 ชั่วโมง 30 นาที )
      06.15 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติแอดดิส อะบาบา โบล หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงของเอธิโอเปียเพียง 6 กิโลเมตรจากสนามบิน เพื่อไปรับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      เริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยวในเมือง แอดดิส อะบาบา เมืองหลวงของประเทศเอธิโอเปีย เมืองนี้อยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดีเป็นจุดยุทธศาสตร์ชัยภูมิที่มั่นเหมาะ เพราะตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของประเทศ เมืองหลวงแห่งนี้ตั้งอยู่บนเชิงเขาเอ็นโตโต้อยู่ในระดับความสูง 2,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เมืองแห่งนี้ถูกเลือกทำเลที่ตั้งโดยจักรพรรดินีเตย์ตูและถูกสร้างโดยจักรพรรดิ์เมเนลิคที่ 2 พระสวามีของจักรวรรดินี เมื่อปีค.ศ. 1886 เนื่องจากพื้นที่เหมาะแก่การเป็นฐานทัพที่มั่นทางการทหาร
      นำท่านชม พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ( Ethiopia National Museum ) จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ เป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งประดิษฐ์ทางโบราณคดีที่มีค่ามากๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูซี่ ( Lucy ) โครงกระดูกของบรรพบุรุษยุคแรกของมนุษย์ที่มีอายุกว่า 3.5 ล้านปี ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ถูกค้นพบเมื่อปีค.ศ. 1974 ในประเทศเอธิโอเปีย โครงกระดูกและกะโหลกศีรษะที่จัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์นี้เป็นของจำลองเสมือนจริง ส่วนลูซี่ของจริงยังคงถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีเพื่อความปลอดภัยเนื่องจากโครงกระดูกเปราะบางมาก
      ต่อมานำชมโบสถ์ออโธด๊อกซ์ เดอะ โฮลี่ ตรีนิตี้ ( The Holy Trinity Cathedral ) โบสถ์นี้ในภาษาอัมฮาริคมีชื่อว่า  คิดิสท์ เซลลัซซี่ ( Kidist Selassie ) เป็นโบสถ์คริสต์ออโธด๊อกซ์ที่ติดอันดับสูงสุดของแอดดิส อะบาบา ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความเป็นเอกราชของเอธิโอเปียจากการยึดครองของอิตาลี  เป็นโบสถ์สำคัญที่ชาวคริสต์ให้ความเคารพสักการะและมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับสองของเอธิโอเปีย โบสถ์นี้ยังคงมีความสำคัญในฐานะที่เป็นสถานที่เก็บพระศพของจักรพรรดิ์ Haile Selassie I และพระจักรพรรดินี Menen Asfaw และเหล่าเชื้อพระราชวงศ์ฝังอยู่ภายในโบสถ์แห่งนี้
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว ไกด์ท้องถิ่นนำท่านเดินทางชม การฉลอง Ethiopian Epiphany หรือเรียกอีกอย่างว่า “Ketera” งานเทศกาลทิมเกต Timket ในเมืองแอดดิส อะบาบา พิธีกรรมทางศาสนาว่าด้วยการเฉลิมฉลองของชาวเอธิโอเปียนิกายออโธด๊อกซ์ เพื่อจำลองพิธีแห่งหีบพันธสัญญา ที่เรียกว่า Tobots ( the replicas of the original Ark) นักบวชทุกโบสถ์ต่างจำลองร่วมทำพิธีถือหีบในการเดินขบวนใต้ร่มสีสันขนาดใหญ่ นอกจากนั้นเจ้าอาวาสของแต่ละแห่งจะถึงไม้กางเขน ภาพทางศาสนา และระฆัง ผู้คนที่มาร่วมงานเทศกาลนี้ต่างร่วมกันร้องสวดมนต์ เต้น ของตลอดทางในการเดินแห่งหีบศักดิสิทธ์ไปยังสถานที่จะประกอบพิธี
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
      พักผ่อนที่โรงแรม Eco-Omo Safari Lodge หรือเทียบเท่า

  • Day 3
    3) วันเสาร์ที่ 19 ม.ค. 62 แอดดิส อะบาบา (Addis Ababa) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้า
      วันนี้เป็นวันหลักของการประกอบพิธีกรรมและทศกาลเฉลิมฉลอง Ethiopian Epiphany ทำให้ท่านมีโอกาสได้ชมพิธีกรรมพรมน้ำศักดิ์สิทธ์ เพื่อรำลึกถึงพระเยซูคริสต์ที่ทำพิธีล้างบาปในแม่น้ำจอร์แดน เหล่านักบวชและมัคนายสวดภาวนาอยู่บนสระน้ำและสเปรย์ให้คนล้างจิตใจของตนจากบาป จากนั้นก็จะแห่งนำหีบจำลองกลับไปประจำวัดของตน
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย ให้ท่านได้พักผ่อนช่วงบ่ายเพื่อเตรียมไปร่วมกิจกรรมในช่วงเย็น ซึ่งเป็นพิธีกรรมของการเฉลิมฉลองของงานเทศกาลอย่างครึกครื้น  
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
      พักผ่อนที่โรงแรม Eco-Omo Safari Lodge หรือเทียบเท่า
  • Day 4
    4) วันอาทิตย์ที่ 20 ม.ค. 62 แอดดิส อะบาบา (Addis Ababa) - จินก้า (Jinka) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้า
      11.30 น. เหินฟ้าสู่เมือง จินคา โดยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES เที่ยวบินที่ ET171 (1130-1240) 
      ( ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 10 นาที ) เดินทางไปยังเมืองจินคา (Jinka) ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเอธิโอเปีย ตั้งอยู่ทางตะวันตกของอาร์บามิชห่างไปประมาณ 365 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแถบโอโมและถูกขนามนามว่าเป็น “ปารีสแห่งแดนใต้”  ที่นี่มีกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมือง 16 ชนเผ่า รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์อื่นที่อาศัยอยู่ในเอธิโอเปีย เมืองนี้ตั้งอยู่ในบริเวณเนินเขาของที่ราบสูงทาม่า ณ ระดับความสูง 1,490 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เมืองจินคาถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวในการมาเยือนประเทศเอธิโอเปีย 
      เดินทางต่อไปยังเมืองจินคาผ่าน Weyto Valley จนกระทั่งเดินทางถึงเมืองจินคา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญสำหรับการเยี่ยมชมวิถีชีวิตแบบพื้นเมืองของชาวเผ่าเมอซีและชาวเผ่าอารี  ที่นี่จะมีตลาดนัดวันเสาร์แบบท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้บรรดาชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆที่อยู่ในบริเวณนั้นออกมาจับจ่ายใช้สอยจนถือเป็นสีสันแห่งการท่องเที่ยว  และที่โดดเด่นไม่แพ้กัน คือ พิพิธภัณฑ์ชนเผ่าโอโม (Museum of the South Omo Research Center)  เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กทางด้านมานุษยวิทยาที่จัดแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของเผ่าพันธุ์ต่างๆในแถบหุบเขาโอโมของเอธิโอเปีย ซึ่งวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละชนเผ่าสะท้อนดูได้จากสิ่งประดับตกแต่งร่างกาย ข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้าน อุปกรณ์เครื่องดนตรี และเครื่องบวงสรวงพิธีกรรม เป็นต้น ซึ่งสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตของแต่ละชนเผ่าได้ดีมากขึ้น เมื่อได้เวลาพอสมควร เดินทางสู่โรงแรมที่พัก 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
        พักผ่อนที่โรงแรม Eco-Omo Safari Lodge หรือเทียบเท่า
  • Day 5
    5) วันจัทร์ที่ 21 ม.ค. 62 เผ่าเมอซี (Mursi Tribe) - เผ่าคอนโซ (Konso Tribe) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      เดินทางไปยังบริเวณอุทยานแห่งชาติมาโก (Mago National Park) เพื่อนำท่านเยี่ยม ชุมชนเผ่าเมอซี ที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำโอโม (Omo River) ผู้หญิงเผ่าเมอซีจะใช้แผ่นไม้ หรือ แผ่นดินเผากลมๆใส่ไว้ที่บริเวณริมฝีปากล่าง โดยจะใส่เมื่ออายุได้ 15-16 ปี สำหรับหญิงสาวที่ไม่ได้แต่งงานจะขยายขนาดของแผ่นจานให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง ชนเผ่าเมอซีเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่โดดเดี่ยวมากที่สุดและอยู่ใกล้ชายแดนประเทศซูดาน มีความเชื่อเรื่องธรรมชาติ พ่อมด มีพิธีกรรมที่ทำเพื่อการปกป้องชีวิตผู้ชาย สัตว์ป่า โรคร้าย และจากการโจมตีจากชนเผ่าอื่นๆ รัฐบาลเอธิโอเปียจึงจัดให้กลุ่มชาติพันธุ์ Mursi และ Suri ภายใต้ชื่อกลุ่ม Surma 
      กลางวัน       รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (ระหว่างทาง)
      จากนั้นเดินทางแวะชมหมู่บ้านคอนโซ (Konso Village) ที่ตั้งบ้านเรือนที่ค่อนข้างแห้งแล้ง บ้านทรงสุ่มทำจากหญ้า รูปร่างเหมือนเห็ด ชาวเผ่าคอนโซมีการเกษตรแบบขั้นบันได กำแพงเมืองสร้างด้วยหิน แวะทักทายเยี่ยมหัวหน้าเผ่าคอนโซและชมงานศิลปหัตถกรรมการแกะสลักเสา Totem จากไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถิ่นพำนักอยู่อาศัยของชุมชนคอนโซได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 2011 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
      พักผ่อนที่โรงแรม Kanta Lodge Hotel หรือเทียบเท่า
  • Day 6
    6) วันที่อังคารที่ 22 ม.ค. 62 คอนโซ - อาร์บามิช - แอดดิส อะบาบา (Addis Ababa) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      เดินทางกลับสู่ อาร์บามิช  ( ระยะทางจากคอนโซถึงอาร์บามิช ราว 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5-3 ชั่วโมง) เตรียมตัวไปยังสนามบินเพื่อเช็คอินสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      13.15 น. เหินฟ้าสู่เมือง แอดดิส อะบาบา โดยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES เที่ยวบินที่ ET134 (1315-1420) ( ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 5 นาที )
      14.20 น. เดินทางถึงเมืองแอดดิส อะบาบา 
      นำท่านขึ้นไปยังจุดชมวิวของเมืองแอดดิส อะบาบา ณ เนินเขาเอ็นโตโต้ เพื่อชมวิวทิวทัศน์พาโนรามาไม่มีสิ่งใดมาบดบังความสวยงามอลังการของเมืองหลวงแห่งนี้ จากนั้นนำท่านไปชม พิพิธภัณฑ์ของโบสถ์เซ็นต์แมรี่ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมแต่ทรงคุณค่า เพราะมีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการริเริ่มสร้างโบสถ์และความศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่มารีที่โบสถ์แห่งนี้ โดยเฉพาะบรรดานักวิ่งชาวเอธิโอเปียที่มีศรัทธาได้เดินทางมาเพื่อกล่าวขอพรจนถึงขนาดนำเหรียญรางวัลชัยชนะมาถวายแด่พระแม่มารีเมื่อสำเร็จ
      ค่ำ         รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
              พักผ่อนที่โรงแรม Elilly International Hotel  หรือเทียบเท่า
  • Day 7
    7) วันพุธที่ 23 ม.ค. 62 แอดดิส อะบาบา (Addis Ababa) - มาเคเล Mekele (B/L/D)
    • เช้า         รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      07.00 น.        ออกเดินทางสู่เมือง มาเคเล โดยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINE เที่ยวบินที่ ET100 (0700-0810) ( ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 10 นาที โดยประมาณ ) 
      เมื่อเดินทางถึงสนามบินเมเคเล ออกเดินทางต่อไปเพื่อไปนอนพักค้างคืน ณ จุดตั้งแคมป์ที่อยู่ในบริเวณดูดัม (Dodum) ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ระหว่างทาง เพื่อเดินทางขึ้นไปยังภูเขาไฟเออตาเตล (Ear’tale Volcano) ในช่วงหัวค่ำ
      กลางวัน        รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ใช้เวลา โดยประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อขึ้นไปยัง ปล่องภูเขาไฟที่เป็นหนึ่งในภูเขาที่ยังคงมีการประทุของลาวา จึงได้ชื่อเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าเป็นประตูสู่นรก
      ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ
                        พักผ่อนที่แคมป์ที่พัก
  • Day 8
    8) วันพฤหัสบดีที่ 24 ม.ค. 62 ภูเขาไฟเออตาเตล (Erta Ale Volcano) - ดาลลอล (Dollol) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ แคมป์ที่พัก 
      ออกเดินทางไปยังเมืองดาลลอล (Dollol) ที่อยู่ในบริเวณของพื้นที่ทะเลทรายดานาคิล (Danakil Desert) ทางตอนเหนือของประเทศเอธิโอเปีย ดานาคิล (Danakil Desert) คือทะเลทรายที่อยู่ในเขตพื้นของสามเหลี่ยมอะฟาร์ (Afar Triangle) ประเทศเอธิโอเปีย บริเวณพื้นที่เรียกได้ว่าเป็น แอ่งดานาคิล (Danakil Depression) เป็นแอ่งขนาดกว้างที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 34° องศาเซลเซียสของปี แต่อุณหภูมิสูงกว่า 50° ในช่วงกรกฎาคม สิงหาคม ที่ลึกที่สุดในทะเลทรายดานาคิลคือ แอ่งดานาคิล มีความลึกประมาณกว่า 100 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป้นจุดที่ต่ำที่สุดของแอ่งดานาคิล (Danakil Depression) 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      พาชมความสวยงามของสีสันจากผลึกกำมะถัน ที่เป็นสีแดง เหลืองและสีส้มจากพื้นทะเลสาบดาลลอล 
      เย็น รับประทานอาหารเย็น
      พักผ่อนที่แคมป์ที่พัก

  • Day 9
    9) วันศุกร์ที่ 25 ม.ค. 62 ดาลลอล (Dollol) - มาเคเล (Mekele) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าณ แคมป์ที่พัก
      ออกจากที่พักเดินทางสำรวจบริเวณ ดานาคิล (Danakil Depression) โดยรอบ นำท่านชม ทะเลสาบอัซซอล (Lake Assal) หรือเรียกอีกอย่างว่า ทะเลสาบคารัม (Lake Karum) ต่อมาคือชมบริเวณที่เป็นเหมืองเกลือ เนื่องจากพื้นที่ในดานาคิลมีอุตสาหกรรมหลักคือ การทำเหมืองเกลือ เราจะได้เห็นชาวบ้านที่นั่งอูฐมาขุดหาก้อนเกลือไปขาย และบ่อน้ำมัน
      กลางวัน         รับประทานอาหารกลางวัน ณ บริเวณดาลลอล
      บ่าย         เดินทางออกจากดาลลอล (Dollol) เพื่อกลับไปเมือง มาเคเล (Mekele) 
      เย็น         เข้าสู่เมืองมาเคเล Mekele และเดินทางถึงโรงแรม
      พักโรงแรมที่ Planet Hotel หรือเทียบเท่า 
  • Day 10
    10) วันเสาร์ที่ 26 ม.ค. 62 มาเคเล (Mekele) - อักซุม (Axum) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม จากนั้นเดินทางไปสนามบิน
      10.40 น.        ออกเดินทางสู่เมือง อักซุม โดยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES เที่ยวบินที่ ET122 (1040-1120) ( ใช้เวลาบิน 40 นาที )
      11.20 น.  เดินทางถึงสนามบินอักซุม หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านออกค้นหาร่องรอยแหล่งอารยธรรมโบราณของอาณาจักรอักซุมที่เก่าแก่พอๆกับอาณาจักรนูเบียในบริเวณแม่น้ำไนล์  เมืองอักซุม ในปัจจุบัน คือ อดีตศูนย์กลางของอาณาจักรอักซุมที่เป็นเอกราชของชาวพื้นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา โดยชื่อ อักซุม หมายถึง ความเกรียงไกร ( Power ) อาณาจักรแห่งนี้ติดต่อกับอาณาจักรกรีก โรมัน และดินแดนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนผ่านทางการค้าผลผลิตการเกษตร ทองคำ งาช้าง ฯลฯ และยังได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอียิปต์และกรีก รวมถึงศาสนาคริสต์ที่แผ่ลงมาอีกด้วย
      อักซุม ถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์ เปรียบเสมือนเป็นนครเยรูซาเลมที่ 2 เนื่องจากเป็นดินแดนที่เก็บหีบแห่งพันธสัญญา ( The Ark of the Convenant ) ซึ่งบรรจุแผ่นศิลาจารึกพระบัญญัติสิบประการที่พระเจ้าได้ทรงประทานไว้แก่โมเสส อีกประการ อักซุม ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกทางโบราณคดีในปีค.ศ.1980
      นำท่านชม ลานประวัติศาสตร์ศิลาจารึก The Northern Stele Field  ซึ่งเป็นบริเวณที่มีหินศิลาจารึกกว่า 120 แท่งตั้งตระหง่านเรียงรายกระจายอยู่ทั่วลาน หินศิลาจารึกแต่ละแท่งนั้นทำจากหินแกรนิตก้อนใหญ่ก้อนเดียวและหันหน้าไปทางทิศใต้ หินศิลาจารึกที่ใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 108 ฟุต แต่ตกหล่นลงมาแล้วแตกเป็นชิ้นๆวางไว้อยู่ที่พื้นดิน ซึ่งท่านสามารถเห็นรายละเอียดเชิงลึกในการแกะสลักหินได้อย่างชัดเจน ถ้าหินศิลาจารึกแท่งนี้ยังคงตั้งยืนอยู่จวบจนปัจจุบันก็จะได้ชื่อว่าเป็นศิลาจารึกหินที่สูงที่สุดในโลก แต่น่าเสียดายหาเป็นเช่นนั้นไม่ ศิลาจารึกหินที่สูงที่สุดในปัจจุบันคือ ศิลาจารึกหินที่มีความสูง 82 ฟุต จากกรุงโรมที่ถูกปล้นสะดมไปเมื่อปีค.ศ.1937  และถูกส่งคืนกลับมายังเมืองอักซุมเมื่อปีค.ศ. 2005  โดยศิลาจารึกถูกตัดแบ่งเป็น 3 ส่วน ซึ่งลำเลียงโดยเครื่องบินด้วยค่าใช้จ่ายสูงกว่า 8 ล้านยูเอสดอลล่าร์  Stele of King Ezana  เป็นศิลาจารึกหินที่ตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าลานประวัติศาสตร์ศิลาจารึกที่ได้ชื่อว่า เป็นศิลาจารึกหินที่สูงที่สุดเป็นอันดับสอง ซึ่งมีรายละเอียดในการแกะสลักหินอย่างงดงามเป็นลวดลายหน้าต่าง-ประตู รวมถึงสัญลักษณ์พระอาทิตย์และพระจันทร์เสี้ยวบนยอดของศิลาจารึก
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      บ่าย นำท่านชม Tombs of Kaleb and Gabra Meskel  ซึ่งสุสานใต้ดินตั้งอยู่บนยอดเขา Abba Likanos อยู่ห่าง
      จากเมืองอักซุมทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือไป 2 กิโลเมตร ชาวเอธิโอเปียเชื่อว่าสุสานแห่งนี้เป็นของกษัตริย์อักซุม 2 พระองค์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6  
      จากนั้นนำชม The 4th Century Christian Inscription of King Ezana แผ่นศิลาจารึกที่มีข้อความจารึกไว้เป็นภาษากรีกและภาษา Ge’ez ซึ่งบรรยายถึงเหตุการณ์ที่กษัตริย์ Ezana ได้ประกาศชัยชนะเหนือการรบต่อสู้กับศัตรูของเขาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 4
      นำท่านชม ซากพระราชวังของสมเด็จพระราชินีชีบา Queen of Sheba’s Palace สถานที่อีกแห่งที่น่าสนใจ ก็คือ ที่อาบน้ำของพระราชินีชีบา Queen of Sheba’s Bath ซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่แกะสลักจากหินใหญ่ก้อนเดียว ปัจจุบันสระน้ำนี้ใช้เป็นอ่างเก็บกักน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภคของชาวบ้าน 
      ปิดท้ายด้วยโบสถ์คริสต์ Tsion Mariam Church หรือ Chruch of Our Lady Mary of Zion เป็นโบสถ์คริสต์ออโธด๊อกซ์มีความสำคัญมากที่สุดในเอธิโอเปีย โบสถ์ดั้งเดิมเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นในยุคสมัยของกษัตริย์ Ezanaผู้เป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่นับถือศาสนาคริสต์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 4 และโบสถ์หลังนี้ก็ถูกซ่อมแซมอีกหลายครั้งในเวลาต่อมา  ปัจจุบันโบสถ์คริสต์ที่นี่มี 2 หลัง คือ โบสถ์เก่าที่ถูกซ่อมแซมและขยายใหญ่ขึ้นโดยจักรพรรดิ์Fasilides ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งอนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่เข้าไปได้ ส่วนโบสถ์หลังใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ์ Haile Selassie ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1950 ซึ่งอนุญาตให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงสามารถเข้าไปภายในโบสถ์ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดของโบสถ์แห่งนี้ คือ เป็นที่เก็บ หีบแห่งพันธสัญญา  โดยชาวเอธิโอเปียเชื่อว่า กษัตริย์เมเนลิคที่ 1 เป็นพระราชโอรสของกษัตริย์โซโลมอนและพระราชินีชีบา จึงเป็นเหตุให้หีบแห่งพันธสัญญาถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่นี่ ในคัมภีร์ของศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม กษัตริย์โซโลมอนเป็นกษัตริย์ชาวยิว เป็นผู้สร้างวิหารโซโลมอนบนเทมเพิลเมาท์ (Temple Mount) ในกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ มั่งคั่งและทรงอำนาจ ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์สุดท้ายก่อนอาณาจักรของชาวยิวจะแตกออกเป็นส่วนๆ  อีกทั้งโบสถ์แห่งนี้ยังคงทำหน้าที่เป็นสถานที่ทำพิธีราชาภิเษกสวมมงกุฎของกษัตริย์เอธิโอเปียมากว่าศตวรรษ
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
      พักผ่อนที่โรงแรม Yared Zema International Hotel  หรือเทียบเท่า
  • Day 11
    11) วันอาทิตย์ที่ 27 ม.ค. 62 อักซุม (Axum) - ลาลิเบล่า (Lalibela) (B/L/D)
    • เช้า       รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม จากนั้นเดินทางไปสนามบิน
      11.15 น.         ออกเดินทางสู่เมือง ลาลิเบล่า โดยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES เที่ยวบินที่ ET123 (1115-1235) ( ใช้เวลาบิน 30 นาทีโดยประมาณ )  
      12.35 น. เดินทางถึงเมืองลาลิเบล่า ซึ่งตั้งอยู่ในระดับความสูง 2,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า โรฮา Roha ในช่วงปลายศตวรรษที่ 12 และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับโบสถ์หินเอกอุขนาดใหญ่ อีกทั้งเมืองนี้มีศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนามากที่สุดเป็นอันดับสองของเอธิโอเปียรองลงมาจากเมืองอักซุมเท่านั้น และถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางในการจาริกแสวงบุญของชาวคริสต์ในเอธิโอเปีย
      นำท่านชม เหล่าโบสถ์หินโบราณกลุ่มแรก ( The First group of Rock-Hewn Churches )  ซึ่งประกอบไปด้วยโบสถ์ต่างๆ 6 หลัง ดังนี้ Bet Medhane Alem  เป็นโบสถ์หินเอกอุที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่เก็บไม้กางเขนที่เก่าแก่เอาไว้ภายในโบสถ์   Bet Maryam  เป็นโบสถ์หินที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดากลุ่มโบสถ์หินโบราณแห่งลาลิเบล่า Bet Golgotha  เป็นโบสถ์หินที่โดดเด่นในด้านศิลปะการแกะสลักและภาพเขียนภายในโบสถ์ อีกทั้งเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์ลาลิเบล่า Bet Mika’el และ  Bet Meskel และ Bet Ghel โบสถ์หินทั้งสามหลังนี้อยู่ในบริเวณเดียวกันทางด้านทิศเหนือของแม่น้ำจอร์แดน
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      บ่าย นำท่านชม เหล่าโบสถ์หินโบราณกลุ่มสอง ( The Second group of Rock-Hewn Churches )  ซึ่งประกอบไปด้วยโบสถ์ต่างๆ 5 หลัง ดังนี้ Bet Giyorgis  เป็นโบสถ์หินที่ได้รับการปกป้องดูแลรักษาสภาพคงเดิมของโบสถ์ที่ดีที่สุด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน Bet Amanuel  เป็นโบสถ์หินที่ถือว่าเป็นวิหารหลวงแห่งลาลิเบล่า Bet Merkorios เป็นโบสถ์หินที่ถือว่าเป็นคุกหลวงแห่งลาลิเบล่า  Bet Abba Libanos และ Bet Gabriel-Rufael  เป็นโบสถ์หินที่ถือว่าเป็นพระราชวังหลวงแห่งลาลิเบล่า เหล่าโบสถ์หินโบราณทั้งหมดมีอุโมงค์ใต้ดินเชื่อมต่อถึงกัน และโบสถ์ทุกหลังมีการเจาะหินแกะสลักอย่างงดงามตามแบบศิลปะของชาวคริสต์เอธิโอเปีย อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกให้เป็น World Heritage Site จาก Unesco ด้วย
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
      พักผ่อนที่โรงแรม Maribela Hotel  หรือเทียบเท่า
  • Day 12
    12) วันจันทร์ที่ 28 ม.ค. 62 ลาลิเบล่า (Lalibela) - แอดดิส อะบาบา (Addis Ababa) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      หลังอาหารเช้าเมื่อได้เวลาพอสมควรเดินทางไปยังสนามบิน
      12.10 น.      ออกเดินทางสู่ แอดดิส อะบาบา โดยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES  เที่ยวบินที่ ET121 (1210-1310) ( ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 0 นาที )
      13.10 น.  เดินทางถึงสนามบินแอดดิส อะบาบา หลังรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      บ่าย นำท่านชม โบสถ์เซ็นต์จอร์จ ( St. George’s Cathedral ) โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1896 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการระลึกถึงและการขอบคุณต่อเซ็นต์จอร์จที่นำพาชัยชนะมาสู่ชาวเอธิโอเปียในการต่อสู้กับการรุกรานของอิตาลีเมื่อครั้งสู้รบที่แอดวา โบสถ์แห่งนี้ค่อนข้างเล็กสามารถจุเพียงได้ 200 ที่นั่ง แต่มีความสำคัญในฐานะที่เป็นสถานที่ทำพิธีราชาภิเษกราชบัลลังก์ของจักรพรรดิ์เซลลัซซี่ และยังเป็นสถานที่ทำงานของจิตรกรเอกชาวเอธิโอเปียที่มีชื่อเสียง  Afewerk Tekle ผู้ที่รับผิดชอบทำหน้าต่างกระจกสีของหอประชุมแอฟริกา
      นำท่านชม เมอร์คาโต้ ( Mercato ) ตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา ตลาดการค้าใหญ่ที่มีสีสันชีวิตชีวา เสน่ห์ของตลาดที่นี่ คือ ภายในเมอร์คาโต้จะมีตรอกซอกซอยที่ซับซ้อนวกวนและไม่มีป้ายทางชัดเจนสิ่งเดียวที่จะทำให้รู้ว่าอยู่ที่บริเวณไหนก็คือท่านจะต้องสังเกตจากของที่ขายบริเวณแถบนั้นว่าเป็นผัก เนื้อสัตว์ กาแฟ หรือเครื่องประดับ เป็นต้น ตลาดแห่งนี้ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทุกอย่างที่ต้องการเพราะมีสินค้าที่หลากหลายตั้งแต่ของราคาถูกยันของราคาแพง
      นำท่านไปแวะซื้อกาแฟที่ขึ้นชื่อแบรนด์ดังของเอธิโอเปีย TOMOCA COFFEE เพื่อเป็นของฝากให้กับเพื่อนฝูงและคนที่คุณรักและลองดื่มเมนูกาแฟยอดนิยมของชาวเอธิโอเปียแมคคิเอโต้ฉบับพื้นเมือง 
      ค่ำ       รับประทานอาหารค่ำ มื้ออำลา
      หลังอาหารค่ำ เมื่อได้เวลาพอสมควรเดินทางไปยังสนามบิน
      21.00 น.  เดินทางถึงสนามบินแอดดิส อะบาบา นำท่านไปเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
  • Day 13
    13) วันอังคารที่ 29 ม.ค. 62 แอดดิส อะบาบา (Addis Ababa) - กรุงเทพฯ (Bangkok)
    • 00.05 น. เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES เที่ยวบินที่ ET608 (0005-1315) (ใช้เวลาบิน 9 ชั่วโมง 10 นาทีโดยประมาณ)   (บริการอาหารบนเครื่องบิน )
      13.15 น.        เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Top